วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554

รวยด้วยหุ้น:เงินปันผล สิ่งที่นักลงทุนควรคิดถึง

เงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield)
         ผลตอบแทนการลงทุนหุ้นนั้นมีหลายรูปแบบ  เช่น กำไรจากมูลค่าหุ้นที่เพิ่ม  แต่สิ่งหนึ่งที่อ่านแล้วรวยอยากให้นักลงทุนมือใหม่ใส่ใจมากๆ ก็คือ  เงินปันผล
เงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) คำนวณได้จาก เงินปันผล (ต่อปี)ต่อหุ้น หารด้วย ราคาหุ้น ช้เปรียบเทียบ อัตราผลตอบแทนการลงทุนที่ได้จากเงินปันผล ของหุ้นที่มีราคา แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น
หุ้น A
หุ้น B

เงินปันผลต่อหุ้น  = 4.0 บาท

เงินปันผลต่อหุ้น  = 4.0 บาท
ราคาปิด            =  80
ราคาปิด            =  120

Dividend Yield    5%

Dividend Yield    3.33%

หุ้น ให้เงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ที่สูงกว่า เนื่องจากหุ้น มีราคาที่ถูกกว่า ในขณะที่หุ้นทั้ง 2 จ่ายเงินปันผลเท่ากัน คือ 4.0 บาท
หรือ อีกนัยหนึ่ง ประมาณว่าถ้านักลงทุน ลงทุนในหุ้น โดยซื้อที่ราคา 80 บาท และหุ้น จ่ายเงินปันผลเท่าเดิม นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผล 5ต่อปี
จะเห็นว่าตัวเลข เงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) นอกจากจะใช้เปรียบเทียบอัตราผลตอบแทน จากเงินปันผลของหุ้น ที่มีราคาต่างกันแล้ว ยังสามารถใช้เป็นปัจจัยในการเปรียบเทียบหุ้นนั้นๆ กับการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอื่น เช่น หุ้นกู้ การฝากเงิน หรือพันธบัตร
          นักลงทุนที่ไม่ปรารถนาที่จะรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้น เช่น นักลงทุนรายใหม่ หรือ นักลงทุนที่ถอนเงินจากการฝากเงิน มาลงทุนในหุ้น อาจมองหาหุ้นที่มี เงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ที่สูง จากตัวอย่างข้างต้นหุ้น ให้เงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) เท่ากับ 5ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
อย่างไรก็ตาม เงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) คำนวณจากการจ่ายเงินปันผลในอดีต ในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา ไม่สามารถรับรองได้ว่า การจ่ายเงินปันผลจะเหมือนเดิมในอนาคต นอกจากนี้เงินต้นจากการลงทุน จะเปลี่ยนแปลงไปตามราคาหุ้นที่เปลี่ยนไปเมื่อทำการขายหุ้น ดังนั้นตัวเลขจึงเป็นเพียงตัวบ่งชี้ เพื่อการตัดสินใจของนักลงทุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น